Latest update พฤศจิกายน 24th, 2024 11:16 PM
มิ.ย. 30, 2023 admin ข่าวภูมิภาค 0
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานการจัดอันดับดัชนีว่าด้วยเสรีภาพและความมั่งคั่ง (Freedom and Prosperity Indexes) ประจำปี 2566 ของสถาบัน Atlantic Council สถาบันคลังสมองในสหรัฐอเมริกา และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความมั่งคั่งอันดับที่ 55 จากทั้งหมด 164 ประเทศทั่วโลก และถือเป็นอันดับที่ 3 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ ซึ่งอยู่อันดับที่ 16 และมาเลเซีย อันดับที่ 53 โดยไทยได้คะแนนตัวชี้วัดด้านสุขภาพสูงถึง 90.9 คะแนน สะท้อนศักยภาพของระบบสาธารณสุขไทย เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา สถาบัน Atlantic Council ได้เผยแพร่รายงานดัชนีว่าด้วยเสรีภาพและความมั่งคั่งของ 164 ประเทศทั่วโลก ประจำปี 2566 โดยวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ในปี 2565 จากสถาบันที่น่าเชื่อถือรวมกว่า 11 สถาบัน สำหรับดัชนีความมั่งคั่ง (Prosperity Index) ไทยได้คะแนนเฉลี่ยรวม 68.6 คะแนน (เท่ากับการประเมินประจำปี 2565) จากตัวชี้วัดสำคัญ 6 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านสุขภาพ (Health) ซึ่งเป็นด้านที่ไทยได้รับคะแนนสูงสุดถึง 90.9 คะแนน 2) ด้านสภาพแวดล้อม (Environment) 80.6 คะแนน 3) ด้านสิทธิของชนกลุ่มน้อย (Minority Rights) 77.6 คะแนน 4) ด้านรายได้ (Income) 65.2 คะแนน 5) ด้านความไม่เท่าเทียม (Inequality) 49.1 คะแนน และ 6) ด้านการศึกษา (Education) 48.5 คะแนน ทั้งนี้ ไทยจัดอยู่ในกลุ่มที่ 2 ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีความมั่งคั่งเป็นส่วนใหญ่ (Mostly Prosperous) การที่ไทยได้รับคะแนนด้านสุขภาพสูงถึง 90.9 คะแนน สะท้อนชัดถึงศักยภาพของระบบสาธารณสุขไทยที่มีคุณภาพและมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งที่ผ่านมา ไทยได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้นำด้านการพัฒนาระบบสาธารณสุข ทั้งในระดับโลกและในระดับภูมิภาค อาทิ การได้รับเกียรติให้เป็นประเทศต้นแบบจัดการโควิด-19 ยอดเยี่ยม การได้รับความเชื่อมั่นให้เป็นที่ตั้งของสำนักงานเลขาธิการศูนย์อาเซียนด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases: ACPHEED) เป็นต้น ซึ่งการประเมินในครั้งนี้ จะยิ่งเป็นการย้ำศักยภาพที่ยอดเยี่ยม และสร้างชื่อเสียงด้านสาธารณสุขของไทยในระดับสากล“นายกรัฐมนตรีขอบคุณความร่วมมือร่วมใจอย่างแข็งขันของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาระบบสาธารณสุขไทย จนได้รับการยอมรับในคุณภาพ มาตรฐาน สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศในระดับสากล ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพและความพร้อมของไทย ประกอบกับนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล จะเป็นแรงขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศอย่างรอบด้าน” นายอนุชาฯ กล่าว#โอดี้FMมีเดียประเทศไทย#โอดี้NEWSสำนักข่าวภูมิภาค#สำนักข่าวภูมิภาคโอดี้NEWS
พ.ย. 24, 2024 0
พ.ย. 24, 2024 0
พ.ย. 24, 2024 0
พ.ย. 24, 2024 0
พ.ย. 21, 2024 0
พ.ย. 21, 2024 0