Latest update เมษายน 11th, 2025 12:19 PM
เม.ย. 08, 2025 admin ข่าวหน้า 1 0
ปิดฉาก! งานสัปดาห์หนังสือครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 เผยยอดนักอ่าน แห่เข้าร่วมงานทะลุ 1.3 ล้านคน สูงกว่าเป้าหมาย ท่ามกลางปัจจัยลบรอบด้าน ทั้งสถานการณ์แผ่นดินไหว วิกฤตเศรษฐกิจ “Gen Z” ครองแชมป์นักอ่าน ที่เข้าร่วมงานมากที่สุด สร้างสีสัน ปลุกบรรยากาศคึกคัก มั่นใจกระแสตอบรับจากพันธมิตรต่างชาติ หนุนไทยขึ้น “ฮับอาเซียน” ในปี 2569
นายสุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า การจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 8 เมษายน 2568 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เห็นได้จากจำนวนนักอ่านที่เข้าร่วมงานตลอด 13 วันมีมากกว่า 1.3 ล้านคน เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้ว่าการจัดงานครั้งนี้จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด จากสถานการณ์แผ่นดินไหว ในประเทศเมียนมา และส่งแรงสั่นสะเทือนมายังประเทศไทย ในวันที่ 28 มีนาคม 2568 ส่งผลกระทบทำให้ต้องปิดให้บริการเร็วกว่ากำหนด
อย่างไรก็ดี หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย และกลับมาจัดงานตามปกติพบว่า นักอ่านกลับมาเข้าร่วมงานสัปดาห์หนังสือฯ เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยพบว่าในวันที่ 29 มีนาคม 2568 หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว 1 วัน มีนักอ่านเข้าร่วมงานมากกว่า 1.3 แสนคน บ่งชี้ให้เห็นว่า นักอ่านยังให้ความสนใจ และมุ่งมั่นที่จะมาเลือกซื้อหาหนังสือเล่มโปรด ขณะเดียวกันจะเห็นได้ว่า ในวันธรรมดาซึ่งปกติจะมีผู้เข้าร่วมงานเฉลี่ย 7-8 หมื่นคนต่อวัน ขณะที่วันเสาร์-อาทิตย์ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.3-1.5 แสนคนต่อวันสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ล่าสุดในวันที่ 6 เมษายน 2568 มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 1.7 แสนคน ถือเป็นสถิติใหม่ในการจัดงานครั้งนี้
ขณะเดียวกันยังพบว่า กลุ่มนักอ่านที่เข้ามาใช้บริการมากที่สุด คือ Gen Z คิดเป็นสัดส่วน 43.65% ตามด้วย Gen Y คิดเป็นสัดส่วน 36.1%และ Gen X คิดเป็นสัดส่วน 19.75% ในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นผู้หญิง 66% ผู้ชาย 27% LGBTQ+ 6% และไม่ระบุเพศอีกประมาณ 1%
โดยอัตราเฉลี่ยของการซื้อหนังสือ พบว่า นักอ่านใช้จ่ายเงินซื้อหนังสือเฉลี่ย 600 – 1,000 บาท คิดเป็นสัดส่วน 30.88% ตามด้วย 1,000 -1,500 บาท คิดเป็นสัดส่วน 14.70% และมากกว่า 3,000 บาท คิดเป็นสัดส่วน 12.84%
ปัจจัยที่ทำให้งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 ประสบความสำเร็จมีหลายประการ ได้แก่การสร้างชุมชนนักอ่านที่เข้มแข็ง ทำให้นักอ่านยังคงมางานจำนวนมาก รวมทั้งยังช่วยประชาสัมพันธ์ ส่งต่อข่าวสารข้อมูล ไปยังชุมชน ทำให้เกิดความมั่นใจและเดินทางมาร่วมงานมากขึ้น การใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย การเชิญชวนอินฟลูเอนเซอร์ เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างคอนเทนต์เพื่อประชาสัมพันธ์งาน ทำให้มีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้นการเตรียมความพร้อมก่อนงาน มีการจัดกิจกรรมเตรียมความพร้อมให้กับสมาชิกก่อนถึงวันงาน เพื่อให้ทุกคนสามารถปรับตัวและเตรียมความพร้อมในการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การสร้างบรรยากาศที่น่าสนใจ การสร้างบรรยากาศการเดินงานหนังสือในรูปแบบใหม่ ทำให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถใช้เวลาอยู่กับกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ การตอบสนองต่อสถานการณ์ แม้จะมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้น แต่ผู้เข้าร่วมงานกลับมาเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่สองหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในงานและความเหนียวแน่นของชุมชน การสนับสนุนจากสมาชิก ทุกคนมีความเข้าใจและสนับสนุนกันในสถานการณ์ที่ท้าทาย ทำให้สามารถรักษายอดขายและจำนวนผู้เข้าร่วมงานได้ในระดับที่น่าพอใจ
“ภาพรวมของการจัดงานในปีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เห็นได้จากจำนวนสำนักพิมพ์ที่เข้าร่วมงาน จำนวนผู้อ่านที่เข้าร่วมงานซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่ยอดขายโดยรศมพบว่า ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แม้จะมีปัจจัยลบเกิดขึ้นจำนวนมาก ทั้งสถานการณ์แผ่นดินไหว เศรษฐกิจที่ผันผวนทั้งภายในและต่างประเทศ ส่งผลต่อความเชื่อมั่น และทำให้กำลังซื้อชะลอตัว”
นายสุวิช กล่าวอีกว่า การจัดกิจกรรมภายในงานครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากโดยเฉพาะการจัดงาน Bangkok Rights Fair 2025 ที่พบว่ามีการซื้อขายลิขสิทธิ์ภายในงานมากถึง 271 คู่ จากผู้เข้าร่วมทั้งหมด 135 บริษัท ใน 14 ประเทศ/เขตแดน ประกอบด้วย เกาหลี จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน ไทย พม่า ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย รัสเซีย เวียดนาม สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ อินเดีย และอินโดนีเซีย ในกลุ่มประเทศดังกล่าวแบ่งเป็นบริษัทต่างชาติ 43 ราย และบริษัทไทย 92 ราย ในจำนวนนี้แบ่งเป็นจำนวนผู้ซื้อ 63 ราย และผู้ขาย 107 ราย จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นดังกล่าวส่งผลให้มียอดการซื้อขายลิขสิทธิ์เกิดขึ้นภายในงานมากกว่า 68 ล้านบาท และในอนาคตจะมีการยกระดับการเจรจาซื้อขายหนังสือให้มากขึ้น และผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางหนังสือของอาเซียนอย่างเต็มตัวในปี 2569
“ปีนี้ถือว่าสมาคมฯ ประสบความสำเร็จในด้านของการขยายตลาดไปต่างประเทศอย่างมาก เห็นได้จากการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับ Taipei Book Fair Foundation เพื่อเข้าร่วมงาน Taipei International Book Exhibition 2026 ในฐานะ Guest of Honor โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะมีสำนักพิมพ์ไทยเข้าร่วมงานดังกล่าวจำนวน 30 สำนักพิมพ์ และมีมูลค่าการขายลิขสิทธิ์อยู่ที่ประมาณ 15.7 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับ Taiwan Creative Content Agency เพื่อเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน Fellowship Program หรือทุนสนับสนุนการเข้าร่วมงาน ระหว่างสำนักพิมพ์ หรือตัวแทนลิขสิทธิ์จากไต้หวันและไทย ในงาน Taipei International Book Exhibition และ Bangkok International Book Fair โดยทุนจะครอบคลุมค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ชั้นประหยัด และค่าที่พักจำนวน 3 วัน 4 คืน รวมถึงความร่วมมือด้านการจัดกิจกรรมและการแลกเปลี่ยนข้อมูลอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ระหว่างทั้งสองฝ่าย
“ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) พร้อมเดินหน้า 4 ยุทธศาสตร์ ผลักดัน “หนังสือไทย” เป็น “ซอฟท์พาวเวอร์” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ชูความหลากหลายกิจกรรมไฮไลท์ภายในงานสัปดาห์หนังสือ 2568 มั่นใจภายใน 2 ปี พาหนังสือไทยขึ้นแท่น “ศูนย์กลางอาเซียน” 5 ปี สู่ “ศูนย์กลางเอเชีย” ส่วนเป้าหมายสูงสุด นั่งแท่น “ศูนย์กลางของโลก” ภายใน 10 ปี
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ประสบความสำเร็จอย่างมากคือ Author’s Salon ซึ่งสมาคมร่วมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม, คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านหนังสือ, คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติและสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ เปิดพื้นที่ให้นักเขียนอิสระและนักเขียนทุกประเภท รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา ได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแบ่งปันประสบการณ์การเขียนกับนักอ่าน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ และแรงบันดาลใจให้กับนักอ่าน
“ความสำเร็จที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ขอขอบคุณนักอ่าน เพื่อนสมาชิก ที่ช่วยกันผลักดันให้การจัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมฯ พร้อมนำเสนอสิ่งต่างๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของนักอ่านและพันธมิตรให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น การจัดโซนพักผ่อน คาเฟ่ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และในอนาคตสมาคมฯ มีแผนจะนำข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับ พร้อมถอดบทเรียนจากสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาพัฒนาให้ตรงกับความต้องการของผู้อ่าน รวมถึงพันธมิตรอื่นๆ ด้วย” นายสุวิช กล่าวสรุป
#ยยักษ์อ่านใหญ่
#งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่53
ข่าว Lek..Yotita
โอดี้NEWS รายงาน
เม.ย. 11, 2025 0
เม.ย. 11, 2025 0
เม.ย. 11, 2025 0
เม.ย. 11, 2025 0
เม.ย. 11, 2025 0
เม.ย. 11, 2025 0
เม.ย. 09, 2025 0
เม.ย. 08, 2025 0