Latest update พฤศจิกายน 24th, 2024 11:29 AM
ส.ค. 07, 2023 admin ข่าวภูมิภาค 0
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้เดินทางลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เพื่อตรวจความคืบหน้าโครงการต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และที่เตรียมจะเปิดให้บริการพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การตรวจเยี่ยมครั้งนี้เป็นการติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการต่างๆ ภายใต้แผนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ซึ่งประกอบด้วยหลายโครงการที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญ สนับสนุน และติดตามความคืบหน้ามาโดยตลอด แต่ที่ให้ความสำคัญวันนี้คือส่วนของอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ซึ่งก็พบว่าในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยตัวอาคารได้มีการก่อสร้างแล้วเสร็จและได้มีการติดตั้งระบบและสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนแล้วสำหรับระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover: APM) ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าระบบล้อยางแบบไร้คนขับซึ่งจะทำหน้าที่ในการรับ – ส่งผู้โดยสาร ระหว่างตัวอาคารผู้โดยสารหลักกับอาคาร SAT – 1 และครั้งนี้ทางคณะก็ได้ทดลองใช้บริการด้วย ก็มีความพร้อมสำหรับให้บริการเช่นเดียวกัน โดยผู้บริหารของ ทอท. ได้รายงานให้ทราบระหว่างการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมว่าทั้งอาคาร SAT-1 ระบบ APM ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นี้ จะเปิดให้บริการ แบบ Soft opening ในปลายเดือน ก.ย. นี้ ก่อนเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในปี 2567 เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารให้กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจาก 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปีต่อไปนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อีกโครงการที่ทางคณะได้ติดตามความคืบหน้าวันนี้คือ การพัฒนาทางวิ่ง หรือ รันเวย์ เส้นที่ 3 ซึ่งพบว่ามีการก่อสร้างไปแล้วกว่าร้อยละ 73 คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนก.ย. 66 และมีแผนจะเปิดใช้งานในเดือน ก.ค. 67 ซึ่งจะทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สามารรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง“การเปิดใช้งานอาคาร SAT – 1 การก่อสร้างรันเวย์ เส้นที่ 3 และโครงการอื่นๆ ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นอกจากจะเป็นการวางพื้นฐานที่เข้ามาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศแล้ว ยังเป็นการรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมการบินของประเทศในอนาคต ทำให้ไทยมีศักยภาพในการแข่งขันสามารถรองรับนักเดินทาง จากทั่วโลก ให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และสร้างความประทับใจแก่ผู้เดินทางที่เดินทาง มาเยือนประเทศไทยทั้งในปัจจุบันและอนาคตต่อไป ซึ่งนี่คือสิ่งที่รัฐบาล ครม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมุ่งมั่น ขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์กับประเทศ ซึ่งทุกอย่างทำได้ก็ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่ายทุกหน่วยงาน ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกๆ หน่วยงานและ ภาครัฐ เอกชน เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ขับเคลื่อนโครงการสำคัญนี้ได้สำเร็จ ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้ตรวจเยี่ยมโดยเดินทางออกจาก Main Terminal ตามเส้นทางผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศและออกยังอาคาร SAT-1 โดยระบบขนส่งผู้โดย ระบบ APM ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าระบบล้อยางแบบไร้คนขับ สามารถรับ – ส่งผู้โดยสารใช้ระยะเวลาประมาณ 3 นาที (รวมระยะเวลาโดยสารและเวลารอคอย) สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 210 คนต่อขบวน เมื่อถึงแล้วทางคณะได้ตรวจเยี่ยมส่วนต่างๆ ตลอดความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบต่างๆ ภายในตัวอาคาร SAT-1สำหรับการก่อสร้างอาคาร SAT-1 นั้น ใช้เป็นระบบ Modular ที่สามารถก่อสร้างได้รวดเร็วและใช้วัสดุที่ดูแลรักษาได้ง่าย คำนึงถึงการออกแบบอาคารที่ยั่งยืน (Sustainable Design) เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงาน บริเวณโดยรอบ อาคาร SAT – 1 มีหลุมจอดประชิดอาคารทั้งหมด 28 หลุมจอด สามารถจอดอากาศยานขนาด Code F (เช่น A380 และ B747-8 ) ได้ 8 หลุมจอด และอากาศยานขนาด Code E (เช่น B747 และ A340 )ได้ 20 หลุมจอดส่วนภายในตัวอาคาร SAT-1 มีพื้นที่ใช้สอยรวม 216,000 ตารางเมตร ตัวอาคารมีความสูง 4 ชั้น ประกอบด้วยชั้น G เป็นพื้นที่สำหรับระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ และพื้นที่สำนักงาน, ชั้น 2 เป็นพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาเข้าและพื้นที่สำหรับผู้โดยสารเชื่อมต่อเที่ยวบิน, ชั้น 3 เป็นพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาออก มีพื้นที่พักคอยสำหรับผู้โดยสารรอขึ้นเครื่องเป็นแบบ Open Gate และมีร้านค้าตลอดแนวทางเดิน และ ชั้น 4 เป็นพื้นที่สำหรับห้องรับรองสายการบิน นอกจากนี้ มีชั้นใต้ดินอีก 2 ชั้น ประกอบด้วย ชั้น B2 เป็นพื้นที่สำหรับสถานีขนส่งระบบ APM และ ชั้น B1 เป็นพื้นที่ห้องงานระบบสำหรับสถาปัตยกรรมภายในอาคาร SAT-1 ได้มีการออกแบบให้สอดคล้องกับอาคารผู้โดยสารหลักหรือ Main Terminal โดยได้มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรม ศิลปะที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยให้กลมกลืนไปกับโครงสร้างอาคารที่ทันสมัย โดยมีผลงานการตกแต่งชิ้นเอกเป็นช้างคชสารตั้งอยู่บริเวณโถงกลางของชั้น 3 ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาออก ส่วนปลายอาคารทั้ง 2 ด้าน คือทิศตะวันออกและทิศตะวันตกติดตั้งสุวรรณบุษบก และรัตนบุษบก ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์ พระพุทธปฏิมา ปางมารวิชัย และ ปางเปิดโลก โดยถอดแบบมาจากวัดผาซ่อนแก้ว เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อสถานที่ เป็นขวัญและกำลังใจต่อผู้ปฏิบัติงานและผู้เดินทางนอกจากนี้ บริเวณชั้น 3ของอาคาร ยังได้รับการออกแบบให้เป็นสวน ตกแต่งด้วยสัตว์หิมพานต์ ตามคติความเชื่อไทยแต่โบราณ อาทิ กินนร,กินรี, เหมราช และหงส์สา ส่วนชั้น 2 ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาเข้า ได้ออกแบบเป็นสวนสัญจรผ่าน จัดแสดงงานภูมิ ทัศน์ผสมผสานกับศิลปวัฒนธรรมของไทย เช่น หุ่นละครเล็ก, หนังใหญ่, หัวโขน, ว่าวไทย เป็นต้น ส่วนห้องน้ำภายในอาคารก็มีความโดดเด่นด้วยการนำเอกลักษณ์หรือลักษณะเด่นทั้ง 4 ภาคของประเทศไทย รวมถึงประเพณีวัฒนธรรมของไทยมาใช้ออกแบบรูปลักษณ์ภายใน ขณะที่สุขภัณฑ์ทั้งหมดได้ใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อช่วยในการประหยัดน้ำในช่วงท้ายของการตรวจเยี่ยม นายกรัฐมนตรีและคณะได้รับฟังการสรุปความคืบหน้าการก่อสร้างรันเวย์ เส้นที่ 3 ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของท่าอากาศยาน ซึ่งมีความยาวของทางวิ่ง 4,000 เมตร ขณะนี้มีความคืบหน้าในการก่อสร้างร้อยละ 73 มีกำหนดการแล้วเสร็จในเดือนก.ย. 66 และเปิดให้บริการเดือนก.ค. 67 ซึ่งจะทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีประสิทธิภาพในการรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
พ.ย. 24, 2024 0
พ.ย. 24, 2024 0
พ.ย. 24, 2024 0
พ.ย. 24, 2024 0
พ.ย. 21, 2024 0
พ.ย. 21, 2024 0
พ.ย. 24, 2024 0
เม.ย. 01, 2022 0
พ.ย. 24, 2024 0