Latest update พฤศจิกายน 23rd, 2024 1:38 PM
เมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๘.๕๔ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไป ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากสถาบันการอาชีวศึกษา ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๒-๒๕๖๓ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานีโอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาทความตอนหนึ่งว่า “ในการทำงานนั้น ต้องอาศัยความรู้ ๒ ส่วน ส่วนหนึ่ง คือความรู้ตามสาขาวิชาที่เล่าเรียนมา อีกส่วนหนึ่งคือความรอบรู้ อันหมายถึงความรู้ที่กว้างขวางออกไปหลากหลายสาขา ทันการณ์และทันโลก ความรู้ ๒ ส่วนนี้ เมื่อใช้ประกอบกัน จะเพิ่มพูนความสามารถในการปฏิบัติงานของแต่ละคนได้อย่างมาก แต่หากใช้เพียงส่วนใดส่วนหนึ่ง งานที่ทำก็อาจบกพร่องเสียหาย ยากที่จะสำเร็จผลอย่างมีประสิทธิภาพได้ จึงขอให้บัณฑิตพยายามฝึกฝนพัฒนาตนเอง ให้เป็นผู้ถึงพร้อมทั้งด้วยความรู้และความรอบรู้ จะได้สามารถประกอบกิจการงานให้บรรลุผลเป็นประโยชน์แก่ตนแก่ส่วนรวมได้สืบไป”ในภาคบ่าย พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการอาชีวศึกษา ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๓ โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาทความตอนหนึ่งว่า “การที่บัณฑิตได้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษานั้น มีความสำคัญต่อประเทศชาติอย่างมาก เพราะจะมีทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้สูงเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก มาช่วยกันสร้างสรรค์ประโยชน์และความเจริญก้าวหน้าให้แก่บ้านเมือง บัณฑิตทุกคนจึงควรตระหนักถึงความสำคัญในข้อนี้ แล้วตั้งใจนำความรู้ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาไปใช้ประกอบอาชีพการงานให้สำเร็จผลเป็นประโยชน์แก่ตนเองและส่วนรวม พร้อมทั้งหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม และสร้างเสริมเพิ่มพูนประสบการณ์อยู่เสมอ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก และความก้าวหน้าของวิทยาการต่าง ๆ หากบัณฑิตประพฤติตนปฏิบัติงานให้ได้ดังนี้ แต่ละคนก็จะเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความสามารถ ที่จะนำพาตนเองและชาติบ้านเมืองไปสู่ความเจริญมั่นคงได้อย่างแท้จริง”
พ.ย. 23, 2024 0
พ.ย. 23, 2024 0