Latest update พฤศจิกายน 23rd, 2024 1:38 PM
พ.ค. 01, 2022 admin ข่าวภูมิภาค 0
วันนี้ (1 พ.ค. 65) เวลา 14.00 น. ภายหลังพิธีรับพระราชทาน “พระพลังแผ่นดิน” เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ของผู้ว่าราชการจังหวัด นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายชยาวุธ จันทร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหาร นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายโสภณ สุวรรณรัตน์ รองหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย คณะผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ที่ปรึกษา ผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด นางกุลทรัพย์ ชื่นโกสุม นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นางกุสุมาล พงษ์สิทธิถาวร นางณัสรี จันทร์สมวงศ์ นางอุษณี จงจิระ นางจิรวรรณ เพ็ญพาส อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมรับฟังการบรรยายพิเศษ “ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย” โดยได้รับเกียรติจาก นายกองโท ธารณา คชเสนี และว่าที่ร้อยตรี น้ำเพ็ชร คชเสนี สัตยารักษ์ วิทยากรประจำหลักสูตรจิตอาสา 904 เป็นวิทยากร
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ประวัติศาสตร์ชาติไทยมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการปลูกฝังให้ลูกหลาน เด็ก เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ได้รู้จักรากเหง้าของเรา มีความภาคภูมิใจ มีความรัก ความกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด อันหมายถึง 3 สถาบันหลักของชาติ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะประวัติศาสตร์ชาติไทยทำให้เราได้รู้รากเหง้าของประเทศ ได้ทราบ ได้รำลึก และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยมาตั้งแต่แรกเริ่มที่มีประเทศชาติของเราขึ้นมา จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานกรรมการศึกษาธิการจังหวัด กำกับดูแลโรงเรียนทุกสังกัดในพื้นที่จังหวัด ขับเคลื่อนการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทย โดยอาจแบ่งการเรียนการสอนให้กระจายองค์ความรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยในแต่ละยุคสมัยไปในแต่ละเทอม เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการสร้างความภาคภูมิใจและประวัติศาสตร์ชาติที่ถูกต้องให้กับลูกหลานอย่างต่อเนื่อง ขยายผลให้กับพี่น้องประชาชน เด็ก เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ในทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ได้รู้จักรากเหง้าของไทยเรา เพื่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัด จะได้ร่วมกันสร้างคุณูปการอย่างยิ่งให้แก่ชาติบ้านเมือง และหลอมรวมพลังความรู้รักสามัคคีของคนไทยที่มีต่อชาติบ้านเมือง คือ “ประเทศไทย” ของพวกเราทุกคนตลอดไป
โอกาสนี้ นายกองโท ธารณา คชเสนี กล่าวบรรยายความโดยสรุปว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นตำแหน่งหน้าที่ที่มีความสำคัญที่สุดในการบริหารราชการในพื้นที่จังหวัด เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งในอดีตนั้น ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด คือ “ท่านเจ้าเมือง” ถือเป็นข้าราชการผู้ปฏิบัติราชการต่างพระเนตรพระกรรณของพระมหากษัตริย์
“ประเทศชาติอยู่รอดปลอดภัยมาได้ถึงทุกวันนี้ด้วย 3 สิ่ง คือ 1) ศาสนา 2) ความรู้รักสามัคคี และ 3) พระมหากษัตริย์ ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 784 ปีของประวัติศาสตร์ไทยยุคสมัยต่าง ๆ กระทั่งถึงการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์โดยสมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราชเจ้าแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์จวบจนถึงปัจจุบัน “พระมหากษัตริย์” ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจและความรักความสามัคคีของประชาชนในชาติ ทรงเป็นผู้นำในการต่อต้านภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติสืบมา โดยพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่ในอดีต ทุกพระองค์ทรงเสียสละพระองค์เพื่อให้ประเทศไทยได้มีความศิวิไลซ์ทัดเทียมนานาอารยประเทศ ด้วยหลัก 5 ประการ อันได้แก่ 1) ทรงเกิดมาเพื่อแผ่นดิน 2) ทรงมีทศพิธราชธรรม 3) ทรงมีพระกตัญญูภาพอย่างสูงยิ่ง 4) ทรงมีพระสติปัญญาเป็นเลิศ และ 5) ทรงรักราษฎรประดุจลูกในอุทร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงงานตลอด 70 ปี โดยทรงต่อสู้กับภัยคุกคามชาติ อันได้แก่ สงครามคอมมิวนิสต์ สงครามยาเสพติด และสงครามความยากจน ด้วยทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจโดยใช้สายพระเนตรเพียงข้างเดียวเสด็จพระราชดำเนินไปในทุกที่ทุกถิ่นที่มีพสกนิกรของพระองค์ ไม่ว่าจะต้องทรงข้ามห้วย ข้ามฝาย ข้ามแม่น้ำ พระองค์ก็เสด็จไปในทุกที่ เพื่อหวังมุ่งให้ประเทศชาติเกิดความสงบร่มเย็น ปวงพสกนิกรมีแต่ความสุข แม้แต่ในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ที่ถือเป็นวิกฤตของคนไทยในเวลานั้น บ้านเมืองมีปัญหาเรื่องคอมมิวนิสต์ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีรับสั่งให้เปิดประตูรั้วพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ให้นิสิตนักศึกษาเข้าไปในบริเวณพระตำหนักฯ เพื่อความปลอดภัย และทรงเสด็จลงพร้อมสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เพื่อทรงเยี่ยมนิสิตนักศึกษาที่เข้ามาสู่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดูแลประชาชน ทุกคนให้มีความปลอดภัย” นายกองโท ธารณาฯ กล่าวในช่วงต้น
นายกองโท ธารณา คชเสนี กล่าวต่ออีกว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงสร้างครอบแก้วเพื่อปกปักรักษาปวงพสกนิกรชาวไทยและราชอาณาจักรไทย คือ พระองค์ที่ 1 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยทรงมุ่งมั่นสืบสานภูมิปัญญาอัตลักษณ์ เอกลักษณ์ งานหัตถกรรม หัตถศิลป์ของบรรพบุรุษไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทอผ้าไหม และส่งเสริมการใช้ผ้าไทย และได้รับการทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทำให้ประชาชน เกษตรกรได้มีอาชีพเสริม มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน พระองค์ที่ 2 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ซึ่งทรงมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนโครงการ TO BE NUMBER ONE สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กและเยาวชนทุกคนให้ได้รู้จักคุณค่าที่มีอยู่ในตนเอง และรู้ถึงความสำคัญของชีวิตตนเอง เพื่อร่วมพัฒนาประเทศชาติ พระองค์ที่ 3 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมุ่งมั่นศึกษาด้านการทหาร ความมั่นคง และทรงปกป้องประเทศชาติให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามด้านต่าง ๆ ทั้งพระราชทานความช่วยเหลือและการพัฒนาประชาชนในทุกด้าน เพื่อสร้างความผาสุกให้กับประเทศชาติและประชาชน พระองค์ที่ 4 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยทรงมีพระปรีชาสามารถทั้งด้านการทรงอนุรักษ์ ส่งเสริม และให้การอุปถัมภ์ด้านศิลปวัฒนธรรมของประเทศ รวมถึงด้านการศึกษา การพัฒนาสังคม เพื่อพัฒนาเด็ก เยาวชน เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ และพระองค์ที่ 5 สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ที่ทรงมุ่งมั่นในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย และพระราชทานพระดำริในด้านการสาธารณสุข เพื่อทำให้คนไทยมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงปลอดโรคภัยร้ายแรงทั้งปวง ซึ่งครอบแก้วทุกพระองค์ยังทรงได้รับการสืบสาน รักษา และต่อยอด โดยสมเด็จพระเจ้าหลานเธอในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทุกพระองค์ และทุกท่าน ได้แก่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซน และท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน
“ด้วยพระบุญญาธิการ เป็นความโชคดีของพวกเราพสกนิกรชาวไทย ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีหลวง ทรงมีพระประสูติกาล พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2495 เวลา 17:45 น. ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต โดยเมื่อทรงมีพระชนมายุครบ 20 พรรษา ทรงเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2515 ขึ้นเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณฯ สยามมกุฎราชกุมาร และเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2559 เวลา 19.16 น. ทรงตอบรับคำกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จฯ ขึ้นครองราชย์สืบราชสันตติวงศ์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ โดยทรงตรัสใจความตอนหนึ่งว่า “ข้าพเจ้าขอตอบรับเพื่อสนองพระราชปณิธาน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยทั้งปวง” และในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการในการออกมหาสมาคมว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” และทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจตามรอยพระบรมราชปณิธานสมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราชเจ้าแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และพระราชปณิธาน พระปณิธานแห่งพระบรมราชบุพการี ด้วยทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักรบ นักกวี ศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ ผู้ทรงพัฒนา ริเริ่มงานจิตอาสา ผู้ทรงเป็นปราชญ์ด้านศาสนา ผู้ทรงเป็นนักการทหาร วินัย และการศึกษา ผู้ทรงเสียสละ ผู้ทรงเป็นนักประชาธิปไตย ผู้เปี่ยมล้นไปด้วยความรู้รักสามัคคี และทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชกรณียกิจของพระบรมชนกนาถ ปกป้องผืนแผ่นดินตามรอยพระบุพการี ด้วยพระราชญาณทัศน์ พระอัจฉริยะภาพ พระราชหฤทัย สองพระหัตถ์ที่เข้มแข็ง ตามรอยพระบาทยาตรา ในการปกป้องแผ่นดิน และเสริมสร้างความร่มเย็นเป็นสุขให้กับพสกนิกรชาวไทยอย่างยั่งยืน” นายกองโท ธารณาฯ กล่าวเน้นย้ำ
นายกองโท ธารณา คชเสนี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเชิญชวนท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ทำหน้าที่ “พ่อเมือง” และข้าราชการชาวมหาดไทยทุกท่าน ได้จดจำและน้อมนำคำสอนของล้นเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบรมราชปณิธาน พระบรมราโชบาย พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ไปปฏิบัติ และเผยแพร่ขยายผลไปยังพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน เพื่อได้ร่วมกันสนองพระราชดำริด้วยการปฏิบัติบูชา ทำสิ่งที่ดีดังที่ทุกพระองค์ได้ทรงปฏิบัติแบบแบบอย่างในการทำเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่ใช่ทำเพื่อตนเอง ส่งเสริมให้คนไทยทุกคนช่วยกันปกครองชาติบ้านเมือง ด้วยการเลือกสรรคนดีเข้ามาปกครองชาติบ้านเมือง ร่วมมือร่วมใจกัน ต่อต้านกีดกันคนไม่ดี ไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับชาติบ้านเมือง ส่งเสริมการเรียนรู้ “ประวัติศาสตร์ชาติไทย” ไปสู่เด็ก เยาวชน และประชาชนทุกคน ได้เข้าใจและร่วมกันทำความดี เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของชาติไทยอย่างยั่งยืนสืบไป #สำนักข่าวภูมิภาค#โอดี้NEWSรายงาน#โอดี้FMมีเดียประเทศไทย
พ.ย. 23, 2024 0
พ.ย. 23, 2024 0
พ.ย. 21, 2024 0
พ.ย. 21, 2024 0