Latest update พฤศจิกายน 21st, 2024 3:00 PM
เม.ย. 27, 2022 admin ข่าวภูมิภาค 0
วันนี้ (27 เม.ย. 65) เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมราชบพิธ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เดือนเมษายน 2565 ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าสำนักงานจังหวัด ผู้อำนวยการกลุ่มงาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นับเป็นเวลา 130 ปีที่กระทรวงมหาดไทยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนาขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2435 ซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงความภาคภูมิใจในเกียรติศักดิ์ศรีของคนมหาดไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจัดพิมพ์สมุดภาพ 130 ปีกระทรวงมหาดไทย เล่มที่ 1 ทำให้ได้ชำระข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่ขาดหายไป นั่นคือ พระยาราชนุกูล (อ่วม) ปลัดทูลฉลองท่านแรกของกระทรวงมหาดไทย ที่ดำรงตำแหน่งตั้งแต่แรกสถาปนากระทรวงมหาดไทย จึงให้สำนักงานจังหวัดทุกจังหวัดได้นำเสนอท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงทายาท ครอบครัวของพระองค์ท่านหรือท่านผู้ทรงเคยหรือเคยดำรงตำแหน่งเจ้าเมือง ข้าหลวง ผู้ว่าราชการเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัด ตั้งแต่แรกสถาปนาเมือง หรือตั้งจังหวัด เพื่อร่วมกันชำระข้อมูลทางประวัติศาสตร์ให้มีข้อมูลที่ถูกต้อง รวมทั้งประสานขอความอนุเคราะห์ หรือขอรับการสนับสนุน สืบเสาะหารูปภาพ เครื่องไม้เครื่องมือที่ท่านเหล่านั้นเคยใช้ในการปฏิบัติราชการได้จะเป็นการดียิ่ง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างความภาคภูมิใจของการเป็นข้าราชการผู้สนองงานต่างพระเนตรพระกรรณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในแต่ละรัชกาลในการดูแลบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ และขยายผลด้วยการจัดพิมพ์เป็นหนังสือ หรือสื่อรูปแบบอื่น เพื่อสร้างการรับรู้ความเข้าใจและความภาคภูมิใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัด และให้กองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ประสานผู้เชี่ยวชาญจัดเก็บข้อมูลแนวทางการทำงานที่เป็นประโยชน์ในการบริหารราชการในพื้นที่ของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ ในปัจจุบันเพื่อเป็นแบบอย่างในการทำงานให้กับข้าราชการรุ่นต่อไปได้นำไปประยุกต์ใช้ขับเคลื่อนงานราชการเพื่ออำนวยประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน
โดยในที่ประชุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าสำนักงานจังหวัด ได้ชี้แจงและแลกเปลี่ยนแนวทางการขับเคลื่อนการทำงาน อาทิ การดำเนินงาน ศจพ. การบริหารสถานการณ์โควิด-19 ทั้งการรณรงค์ให้ประชาชนได้เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น (เข็ม 4) การเตรียมความพร้อมเปิดจุดผ่านแดนถาวรบริเวณจังหวัดชายแดนประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 การรายงานข้อมูลผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการของปลัดกระทรวงมหาดไทย เช่น โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์สู่โคก หนอง นา ฯลฯ การส่งเสริมการจัดประชุมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัด แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การบริการจัดการน้ำ การเตรียมการชี้แจงคำของบประมาณปี 2566 และการพัฒนาและยกระดับคะแนน ITA เป็นต้น
จากนั้น นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มอบแนวทางการทำงานและติดตามการขับเคลื่อนการทำงานตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยและภารกิจสำคัญของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ 1) การดำเนินงานศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) โดยจังหวัดต้องปรับรูปแบบ/วิธีการตามภูมิสังคมและบริบทจังหวัด และประชุมซักซ้อมแกนนำของอำเภอ ทั้งนายอำเภอ ปลัดอำเภอ พัฒนากร ผู้เกี่ยวข้อง ให้เข้าใจแนวทาง วิธีการ และให้ทีม อสม. เร่งสำรวจข้อมูลผู้ตกหล่นจากระบบ TPMAP ให้ครบถ้วนโดยใช้แพลตฟอร์ม ThaiQM และที่เป็นเอกสารเพื่อป้องกันกรณีระบบไม่สามารถใช้งานได้ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อทีมปฏิบัติการฯ ตำบล คัดกรองแล้วนำเสนอ ศจพ.อำเภอ กำหนดเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาให้สำเร็จตามแผน 2) การบริหารสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งในขณะนี้ ศบค. ได้ผ่อนคลายมาตรการเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตวิถีใหม่ตามปกติ ทั้งการเปิดจุดผ่านแดนถาวร การปรับมาตรการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหารที่ผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2Plus หรือ COVID Free Setting เป็นไม่เกิน 24.00 น. และด้านอื่น ๆ ทั้งนี้ ให้ทุกจังหวัดยังคงรณรงค์เน้นย้ำให้พี่น้องประชาชน “ไม่ประมาท” และยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองสูงสุด ทั้ง Universal Prevention และ DMHTA อย่างเคร่งครัด และเชิญชวนให้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (เข็ม 4) ให้ครบถ้วน 3) การดำเนินงานตามนโยบายสำคัญสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญในการตรวจติดตามทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณ การดำเนินงานตามนโยบาย และนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อทำให้งานบรรลุตามวัตถุประสงค์ และให้สำนักนโยบายและแผน ติดตามและนำเสนอผลการดำเนินงานของจังหวัดในการประชุม เพื่อเกิดการประมวลและรายงานผลการดำเนินงานให้เป็นที่ประจักษ์ 4) การบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ขาดแคลนน้ำซ้ำซาก หรือพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำต่อเนื่อง 3 ปีติดต่อกัน ที่มีประมาณ 1,000 หมู่บ้านทั่วประเทศ โดยให้ทุกจังหวัดสั่งการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด โครงการชลประทานจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งจัดสรรงบประมาณและจัดลำดับความสำคัญในการแก้ปัญหาแหล่งน้ำพื้นที่ดังกล่าวมาเป็นลำดับแรก และให้ทุกจังหวัดคำนึงและเตรียมการรองรับสถานการณ์ในช่วงที่กำลังจะเข้าสู่ฤดูฝนเชิงรุก ทั้งการขุดลอกคูคลอง กำจัดวัชพืช และสำรวจข้อมูลสิ่งกีดขวางทางน้ำ โดยอาจประยุกต์แนวทางธนาคารน้ำใต้ดินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาใช้ และเร่งสร้างความรับรู้ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ทราบและร่วมกันป้องกัน 5) การสร้างการรับรู้ความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยใช้กลไกประชาสัมพันธ์จังหวัดและขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชนในพื้นที่ ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ทั้งในเชิงการป้องกัน ผลการดำเนินงาน รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ และเน้นย้ำให้ข้าราชการ/เจ้าหน้าที่เป็นนักประชาสัมพันธ์ด้วยตนเอง โดยบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว รวมถึงสรุปผลการลงพื้นที่ปฏิบัติราชการในแต่ละครั้ง จัดทำเป็นข่าวประชาสัมพันธ์ส่งให้กับพี่น้องสื่อมวลชนทั้งสื่อในพื้นที่และสื่อส่วนกลาง รวมถึงกองสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อขยายผลการประชาสัมพันธ์คู่ขนานไปกับการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อในความรับผิดชอบของจังหวัด/หน่วยงาน และ 6) การสนับสนุนบทบาทของสำนักงานจังหวัดเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยหน่วยงานในส่วนกลาง ต้องเป็นหน่วยสนับสนุนแนวทาง/วิธีการปฏิบัติงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย เช่น ทักษะองค์ความรู้พิธีการทางการทูตและการรับรองแขกต่างประเทศ องค์ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการที่จำเป็น และการประเมินผลการปฏิบัติราชการเพื่อพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เป็นต้น
“ในการปฏิบัติราชการและการทำงานทุกอย่าง ต้องมีความรู้คู่คุณธรรมและใจต้องมาก่อน ดังสีประจำกระทรวงมหาดไทย ที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดี ทรงเลือก “สีดำ” เพราะเป็นสีแห่งความรักและความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ อันมีความเชื่อมาจากตำนานของศาสนาฮินดู ที่พระศิวะกลืนน้ำอมฤตจากพิธีเกษียรสมุทรซึ่งมีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก เพื่อช่วยเหลือมวลมนุษย์ จนทำให้พระศอของพระศิวะเป็นสีดำ จึงกลายเป็นสีแห่งความรักและความเสียสละ ดังเช่นปณิธานชาวมหาดไทยที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ช่วยเหลือให้ประชาชนพ้นทุกข์ และมีแต่ความสุข ซึ่งความสำเร็จเพื่อส่วนรวมจะบังเกิดได้ต้องเกิดจากใจ เกิดจากแรงปรารถนา (Passion) ที่ฮึกเหิม และทัศนคติ (Attitude) อุดมการณ์ความตั้งใจจริงอย่างแน่วแน่ที่อยากบำบัดทุกข์ บำรุงสุข อยากทำให้สิ่งที่ดีเกิดขึ้น ผนวกกับการใช้ความรู้ (Knowledge) มาเกื้อกูลกับความสามารถ Ability ที่เกิดจากฝึกฝน นำไปสู่ความสำเร็จ (Success) ที่พวกเราต้องการอยากทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัด เพื่อส่งผลให้เกิดความรัก ความเลื่อมใส ความศรัทธา ด้วยการมีจิตบริการ ทำงานด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว แม่นยำ และแจ้งความคืบหน้าการแก้ปัญหาหรือการให้บริการ ทำให้เป็นบรรทัดฐานการทำงาน (Norm) เพื่อให้ประชาชนผู้รับบริการได้รับรู้รับทราบแล้วเกิดความสบายใจ ความทุกข์ยาก ความลำบากยากแค้นของประชาชนก็จะบรรเทาเบาบางลง” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จะทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 90 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 90 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 และวันสำคัญที่เกี่ยวเนื่องด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ จึงให้ทุกจังหวัดบูรณาการหน่วยงานและหลอมรวมทุกภาคส่วนในพื้นที่ ร่วมกันขับเคลื่อนกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อน้อมถวายพระพรและถวายเป็นพระราชกุศลด้วยการปฏิบัติบูชา ทั้งการจัดทำผีเสื้อแห่งความจงรักภักดีจากผ้าอัตลักษณ์ของจังหวัด การพัฒนาพื้นที่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์และสถานที่อันเนื่องมาจากการเสด็จพระราชดำเนินในพื้นที่ต่าง ๆ การสวมใส่ผ้าไทยสีฟ้าในทุกวันศุกร์ การสร้างความมั่นคงทางอาหารปลูกผักสวนครัว การรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อนในทุกครัวเรือน และร่วมกับพี่น้องประชาชนทำกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติในทุกวันศุกร์ตลอดปี 2565 เพื่อร่วมกันสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ทรงเป็นที่เทิดทูนศรัทธา และทรงมีคุณูปการนำมาซึ่งความผาสุกร่มเย็นและความสมัครสมานสามัคคีของปวงชนชาวไทยมาจวบจนถึงปัจจุบัน
“ขอให้เราทุกคนได้ร่วมกันเจริญรอยตามแนวทางการทำงานของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่ทรงปรารถนาให้คนมหาดไทยมีพฤติกรรมการทำงานเพื่อประชาชนในพื้นที่ที่ว่า “การเป็นผู้นำนั้น ต้องให้รองเท้าขาดก่อนกางเกง คือ ต้องออกตรวจตราจนรองเท้าขาด ไม่ใช่นั่งเก้าอี้จนกางเกงขาด เพราะหลักโบราณก็มีอยู่ว่า จงคิด จงสั่ง จงตรวจ” โดยสำนักงานจังหวัดต้องนำเสนอท่านผู้ว่าราชการจังหวัดลงตรวจติดตามและเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตามข้อมูลที่ได้รับรายงานจากอำเภอหรือหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้ได้ทราบว่าข้อเท็จจริงและสามารถเพิ่มพูนความสุขให้กับพี่น้องประชาชน รวมทั้งหารือ ติดตามถามไถ่การทำงานร่วมกับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ โดยสามารถบูรณาการหน่วยงานร่วมรับฟังปัญหา นำบริการไปให้ประชาชนในรูปแบบการตรวจเยี่ยม ไม่ใช่การจัดกิจกรรมที่ต้องมีพิธีรีตอง เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะนายกรัฐมนตรีของจังหวัด และนายอำเภอในฐานะนายกรัฐมนตรีของอำเภอ ได้ใกล้ชิดประชาชน ใกล้ชิดปัญหา ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาที่หมักหมม บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้สำเร็จ นำมาซึ่งความสุขของประชาชน และความภาคภูมิใจของพวกเราในฐานะข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับแผ่นดินไทยอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย #สำนักข่าวภูมิภาค#โอดี้NEWSรายงาน#โอดี้FMมีเดียประเทศไทย
พ.ย. 21, 2024 0
พ.ย. 21, 2024 0
พ.ย. 21, 2024 0
พ.ย. 21, 2024 0